วัดดังสุพรรณบุรี หนึ่งในไฮไลท์ของการเที่ยว สุพรรณบุรี ก็คือการทัวร์ไหว้พระ วัดดัง นั่นเองค่ะ วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปทัวร์ กันค่ะ วัดดังสุพรรณบุรี เจิมมือ งานนี้ใครที่อยากจะเสริมสิริมงคล เพื่อสิ่งดีๆ ให้กับชีวิต ก็ต้องตามเรามาที่ สุพรรณบุรี แล้วค่ะ
วัดป่าเลไลยก์ วัดดังสุพรรณบุรี
วัดดังสุพรรณบุรี วัดป่าเลไลยก์ วัดดังแห่งเมืองสุพรรณ ที่มี หลวงพ่อโต ให้เราได้สักการะกัน ถือได้ว่าเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของสุพรรณบุรีเลย เพราะน่าจะมีอายุมากกว่า 1,200 ปีทีเดียว โดยรอบๆ วิหารของหลวงพ่อโตนั้น จะมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวของ ขุนช้าง-ขุนแผน นิราศเมืองสุพรรณของสุนทรภู่ไว้ รวมถึงในบริเวณวัดยังมี เรือนขุนช้าง เรือนไทยแบบโบราณ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกด้วยวัดป่าเลไลยก์ วัดดังแห่งเมืองสุพรรณ ที่มี หลวงพ่อโต ให้เราได้สักการะกัน ถือได้ว่าเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของสุพรรณบุรีเลย เพราะน่าจะมีอายุมากกว่า 1,200 ปีทีเดียว โดยรอบๆ วิหารของหลวงพ่อโตนั้น จะมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวของ วัดสุพรรณบุรี สายบุญ ขุนช้าง-ขุนแผน นิราศเมืองสุพรรณของสุนทรภู่ไว้ รวมถึงในบริเวณวัดยังมี เรือนขุนช้าง เรือนไทยแบบโบราณ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกด้วยก่อสร้างทางพุทธศาสนาให้เราได้เดินเที่ยวชมมากมาย ทั้ง พระธรรมจักร พระวิหารร้อยยอด และ ประติมากรรมปูนปั้น เป็นต้นค่ะ
วัดสำปะซิว
หนึ่งในวัดดัง อย่าง วัดสำปะซิว ของ สุพรรณบุรี นั้น เป็นวัดที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.1857 สมัยอยุธยาตอนต้นเลย ซึ่งในบริเวณวัดก็มีการขุดพบแหล่งโบราณคดีเก่าแก่มากมาย และเป็นแหล่งที่ตั้งเตาเผาภาชนะดินเผา ทำให้วัดนี้กลายเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญอีกแห่งหนึ่งเลย แต่สิ่งที่ทำให้วัดนี้เป็นที่รู้จักนั้น ก็คือภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งมีภาพของโดราเอม่อน ไปจนถึงแองกรี้เบิร์ด และเทพไอแพดซ่อนอยู่ ทำให้ได้รับความสนใจจากเด็กๆ เป็นอย่างมากทีเดียวค่ะ
วัดน้อย บางปลาม้า
อีกวัดเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ก็คือ วัดน้อย บางปลาม้า ที่มีพระเกจิชื่อดังของจังหวัดสุพรรณบุรี อย่าง หลวงพ่อเนียม ที่ชาวบ้านนับถือกันมากมาย ซึ่งภายในกุฏิก็จะมีเรื่องราวของท่านให้ได้ชมกันด้วย เล่ากันว่าหลวงพ่อเนียมมรณภาพในลักษณะเหมือนพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ถือว่าเป็นพระสงฆ์องค์แรกของเมืองไทยที่มีการมรณภาพเช่นนี้เลยค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีทั้ง มณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาท วิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นองค์ใหญ่ ให้ได้สักการะกันด้วย
วัดไผ่โรงวัว
วัดสวย ที่มีพระพุทธรูปปูนปั้นองค์สีขาวเป็นไฮไลท์สำคัญ นั่นก็คือ วัดไผ่โรงวัว ค่ะ โดยจะมีขนาดใหญ่และประดิษฐานอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่น เห็นได้จากที่ไกลๆ เลย และที่หน้าองค์พระจะมีฆ้องและบาตรที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยค่ะ รวมไปถึงมี พระพุทธโคดม พระพุทธรูปโลหะสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศด้วยเช่นกัน และยังมีสิ่งก่อสร้างทางพุทธศาสนาให้เราได้เดินเที่ยวชมมากมาย ทั้ง พระธรรมจักร พระวิหารร้อยยอด และ ประติมากรรมปูนปั้น เป็นต้นค่ะ
วัดทับกระดาน
หลายคนที่มาเยือน สุพรรณบุรี ก็ต้องนึกถึง วัดทับกระดาน ที่มีความเกี่ยวข้องกับราชินีลูกทุ่ง อย่าง พุ่มพวง ดวงจันทร์ เลยค่ะ เพราะวัดทับกระดานแห่งนี้ได้เก็บสิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเอาไว้ เพื่อให้ผู้ที่ยังรักและคิดถึงราชินีเพลงลูกทุ่งได้แวะเวียนมาระลึกถึงกันค่ะ ทำให้มีผู้คนมากมายนำรูปวาดมาให้ทางวัด เพื่อเป็นการแก้บนต่างๆ อีกด้วย และยังมีการสร้างหุ่นพุ่มพวงเอาไว้ให้ระลึกเช่นกันค่ะ
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ วัดเขาทำเทียม
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือ หลวงพ่ออู่ทอง เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักบนหน้าผินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใน พุทธมหาสถานเมืองโบราณอู่ทองค่ะ โดยองค์หลวงพ่ออู่ทองนั้นมีความสูงถึง 108 เมตรเลยทีเดียว อีกทั้งหน้าผารอบๆ บริเวณยังมีการแกะสลักเรื่องราวต่างๆ ของพระพุทธศาสนา ทำให้ทั้งชาวสุพรรณ และนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาสักการะมากมาย
วัดเขาดีสลัก
วัดเขาดีสลัก เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งในจังหวัดสุพรรณบุรีค่ะ ภายในจะมี รอยพระพุทธบาท สลักบนแผ่นหินทรายสีแดง ซึ่งมีความแตกต่างจากรอยพระพุทธบาทที่อื่นๆ คือ เป็นรอยพระพุทธบาทนูนต่ำ สันนิษฐานว่าเป็นศิลปะสมัยทวาราวดี ประมาณพุทธศตวรรษที่ 14-16 นั่นเอง นอกจากนี้ ด้านบนยังมีหอบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ให้สักการะอีกด้วยค่ะ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ที่เมื่อก่อนนั้น น่าจะเป็นศูนย์กลางของเมืองสุพรรณภูมิ และเป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง ซึ่งคาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 600 ปีมาแล้วค่ะ ไฮไลท์ของวัดนี้ คือองค์ปรางค์ประธาน ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ พระพิมพ์ผงสุพรรณบุรี ที่โด่งดังมากในวงการพระเครื่อง และยังเป็นหนึ่งใน เบญจภาคี 5 พระเครื่องยอดนิยมอีกด้วยค่ะ
วัดพระลอย
มาถึง วัดดัง สุดท้าย ของ สุพรรณบุรี นั่นก็คือ วัดพระลอย คาดว่าน่าจะสร้างขึ้นในช่วงกลางของสมัยพระเจ้าอู่ทอง สาเหตุที่ชื่อว่า วัดพระลอย ก็เพราะครั้งหนึ่งเคยมีพระพุทธรูปปางนาคปรกเนื้อหินทรายขาวลอยมาตามแม่น้ำท่าจีน ซึ่งคาดว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยลพบุรี โดยชาวบ้านได้ช่วยกันอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานไว้ในวิหารของวัด เลยเป็นที่มาของชื่อวัดนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ยังมี โบสถ์ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปีอีกด้วย รวมถึงยังมี ตลาดร่มไม้ชายน้ำ วัดพระลอย ให้ได้เดินเที่ยวเพลินๆ กันด้วย