วัดดัง นครนายก จครั้งหน้าต้องอย่าพลาด! แนะนำ วัดดังนครนายก สำหรับสายมู เอาไว้ไปเดินสายขอพรกันแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นวัดดังนครนายกแบบไทย ๆ ไปทำบุญที่วัดไหนดี วัดโบราณ หรืออุทยานองค์เทพก็มีให้เลือกครบ ที่สำคัญคือเดินทางง่าย อยู่ใกล้กรุงเทพฯ แถมไหว้พระเสร็จแล้วยังมีกิจกรรมในจังหวัดนครนายกให้ทำอีกมากมาย ทั้งกิจกรรมแอดเวนเจอร์ คาเฟ่ถ่ายรูปแบบชิค ๆ คูล ๆ บอกเลยว่าไปที่เดียว คุ้มแน่นอน!!
วัดดังนครนายก อุทยานพระพิฆเนศ วัดดัง นครนายก
วัดดัง นครนายก วัดดังนครนายก อุทยานพระพิฆเนศ นครนายก ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อรักษาและอนุรักษ์พระพิฆเนศ (เทพเจ้าแห่งปัญญาและความสำเร็จ) วัดนครนายกสายมู ซึ่งได้รับการเคารพบูชาจากผู้ศรัทธามากมาย แรกเริ่มถูกสร้างขึ้นด้วยความอุทิศตนของพระราชพิพัฒน์โกศล หรือหลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร ร่วมกับนักศึกษาที่มีความเคารพศาสนาและศรัทธาในพระพิฆเนศภายในอุทยานนี้ พระพิฆเนศถูกสร้างเป็นรูปปูนปั้นใหญ่ที่มีขนาดกว้างถึง 9 เมตรและสูงถึง 15 เมตร ปางประกอบด้วย พระพิฆเนศปางนั่งประทานพร หรือเรียกอีกชื่อว่า ปางคณบดี และ ปางไสยาสประทานพร ซึ่งมีความสำคัญทางศิลปะและศาสนา มีการครอบเศียรพระพิฆเนศ อารตีไฟ โดยพราหม์ อีกทั้งภายในอุทยานยังมีเทพอีกหลายองค์ที่มีให้ได้กราบไหว้บูชาตามศรัทธาของผู้เข้าชมนอกจากศิลปะและศาสนาแล้ว อุทยานพระพิฆเนศยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากในอดีตมีการใช้พื้นที่นี้ในการปฏิบัติธรรมและกิจกรรมศาสนาที่สำคัญ จึงทำให้นอกจากจะเป็นวัดดังนครนายกที่เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนายังถือเป็นสถานที่ที่ทำให้ได้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติอีกด้วย
วัดดังนครนายก วัดลำบัวลอย
อีกวัดดังนครนายกที่มีคณะศรัทธาหลั่งไหลไปกันอย่างล้นหลามอย่างวัดลำบัวลอยซึ่งเป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย เป็นวัดดังนครนายกที่ปัจจุบันมีชื่อเสียงในเรื่องวัตถุมงคลซึ่งหลวงพ่อสนิทได้สร้างขึ้นมา เช่น จระเข้โทน นกสาริกา พญาเรือนเต่าโดยเฉพาะจระเข้โทนที่หลวงพ่อสนิทได้ปลุกเสกไว้ ซึ่งหากใครกำลังมีการติดขัดเรื่องเงิน ธุรกิจสะดุด มีหนี้สิน ก็จะแห่กันมาอาบน้ำจระเข้ หรือขัดล้างหุ่นของจระเข้โทนทั้งสองตัว อาบน้ำให้จระเข้ไปพร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานตามแต่ศรัทธาซึ่งจระเข้โทนของวัดดังนครนายกแห่งนี้ความจริงแล้วเป็นจระเข้ที่หลวงพ่อสนิทได้เลี้ยงเอาไว้โดยเชื่อว่าจะช่วยคุ้มภัยก่อนจะมรณภาพ เมื่อหลวงพ่อสนิทมรณภาพและจระเข้โทนได้ตายลง รองเจ้าอาวาสได้อุ้มโทนขึ้นมาอาบน้ำบริเวณข้างสระและสตัฟฟ์ร่างเอาไว้ในโลงแก้วเพื่อให้ญาติโยมได้มากราบไหว้ และเชื่อว่าจระเข้โทนจะบันดาลโชคลาภ ช่วยเรื่องการปลดหนี้สิน ขจัดอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ ผู้ที่มาที่นี่ส่วนใหญ่จึงมีเป้าหมายคือ อาบน้ำขอพรกับจระเข้โทน กราบไหว้หลวงพ่อสนิท และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ภายในวัดดังนครนายกแห่งนี้นั่นเอง
วัดดังนครนายก วัดมณีวงศ์
วัดมณีวงศ์อีกวัดดังนครนายกที่ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากได้ชื่อว่าเป็นวังพญานาคพันตัว วัดมณีวงศ์นครนายกนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่าร้อยปีอีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องความวิจิตรการตาของสถาปัตยกรรมตั้งอยู่บนพื้นที่ราว ๆ 7 ไร่เศษ มีสิ่งปลูกสร้างโบสถ์ วิหาร พระพุทธรูปให้สักการบูชามากมายทั่วบริเวณวัด และสิ่งสำคัญที่คณะศรัทธาต่างก็ต้องการเข้าชมและบูชาที่วัดดังนครนายกแห่งนี้ก็คือ วังรัตนมณีมหานครบาดาลนาคราช หรือที่เรียกกันว่าวังพญานาคนั่นเองความอลังการของวังพญานาคที่วัดดังนครนายกแห่งนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่บริเวณทางเข้าวังพญานาคซึ่งจะมีสะพานรูปปั้นพญานาคที่จำลองการข้ามห้วงนรก โดยตัวสะพานจะเป็นพญานาค 5 เศียร และด้านข้างมีองค์พญานาคจำแลงอยู่ในสระบัว เมื่อเข้าไปถึงด้านในก็จะได้พบกับพระพุทธรูปองค์ใหญ่หรือพระรัตนมณีมหาบาดาลซึ่งประดิษฐานอยู่ท่ามกลางเหล่าพญานาคให้ได้กราบไหว้ซึ่งภายในวังจะมีประติมากรรมจำลองพญานาคทั้ง 4 ตระกูล คือ ตระกูลวิรูปักข์ (สีทอง) ตระกูลเอราปถะ (สีเขียว) ตระกูลฉัพพญาปุตะ (สีรุ้ง) และตระกูลกันหาโคตะมะ (สีดำ) เรียกได้ว่าวัดดังนครนายกแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สายมูซึ่งมีความศรัทธาในพญานาคห้ามพลาดกันเลยทีเดียว
วัดดังนครนายก วัดคีรีวัน
วัดคีรีวัน วัดดังนครนายกที่มีความสวยงามภายใต้ศิลปะแบบขอม นอกจากจะมีความโดดเด่นด้านศิลปกรรมสไตล์ขอมที่งดงามตระการตาไปทั่ววัด วัดดังนครนายกแห่งนี้ยังโด่งดังในเรื่ององค์พระแก้วมรกตจำลองซึ่งถูกตกแต่งด้วยเพชรแท้ 7 กะรัต อีกทั้งยังถูกประดับด้วยพลอยและทับทิบจำนวนมากซึ่งพระแก้วมรกตองค์นี้นั้นนอกจากจะมีความสวยงามตระการตาแล้วยังได้รับการขนานนามว่าเป็นองค์พระแก้วมรกตที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วัดแห่งนี้ติดอันดับวัดดังนครนายกที่คณะศรัทธาญาติโยมแห่เข้ามาชมบารมีและสักการบูชา ขอพรกันอย่างไม่ขาดสายกันเลยทีเดียว
วัดดังนครนายก วัดเลขธรรมกิตติ์
สายประวัติศาสตร์และชื่นชอบความเก่าแก่จะต้องถือว่าวัดดังนครนายกแห่งนี้เป็นจุดเช็กอินสำคัญ เนื่องจากวัดเลขธรรมกิตติ์แห่งนี้นั้นเป็นวัดเก่าปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นที่ประดิษฐานของโบสถ์ซึ่งมีความเก่าแก่กว่าร้อยปีที่ปัจจุบันเหลือไว้เพียงแค่ผนังบางส่วนและซุ้มประตูวัดที่มีรากของต้นโพธิ์ปกคลุมอยู่จนทั่ว กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามและทรงคุณค่าในแง่ของศิลปวัฒนธรรมมากแห่งหนึ่งนั่นเอง