วัดดังอยุธยา ใครที่มีแผนจัดทริปทำบุญใกล้กรุงเทพฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยวัดแทบจะทั้งเมือง ทำให้เมืองอยุธยาเปรียบเสมือนแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพราะมีโบราณสถานและอุทยานประวัติศาสตร์ให้เข้าไปศึกษาเรื่องราวในอดีตหลายแห่ง ฉะนั้นหากคุณไม่อยากรอวันหยุดยาว แนะนำให้ออกเดินทางไหว้พระเสริมดวง เสริมสิริมงคลแก่ตัวเอง และครอบครัว กับ 9 วัดอยุธยาแบบวันเดย์ทริป รับรองว่าอิ่มบุญสุขใจแน่นอน วัดดังอยุธยา ของขลัง ว่าแต่ไปเที่ยวอยุธยาวันเดียว มีวัดไหนบ้างนั้น ตามมาดูกัน
วัดใหญ่ชัยมงคล วัดดังอยุธยา
วัดดังอยุธยา เริ่มต้นกันที่ วัดใหญ่ชัยมงคล วัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ทั้งยังถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สายบุญต้องมาไหว้พระขอพรต่าง ๆ ทั้งเรื่องการงาน การเงิน สุขภาพ ความรัก เมื่อมาเยือนอยุธยา นอกจากนี้วัดใหญ่ชัยมงคลยังมีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น ทั้งพระเจดีย์ชัยมงคล อนุสรณ์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระพุทธไสยาสน์หรือพระนอน วัดอยุธยา ศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูปสีขาวห่มคลุมด้วยจีวรตลอดทั้งร่าง ประดิษฐานอยู่บนพื้นที่เดิมของพระวิหารเก่าในอดีต รวมถึงการสักการะศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ส่วนบริเวณรอบ ๆ วัดยังมีสวนหย่อมที่สวยงามให้นั่งพักผ่อนหรือเดินชมบรรยากาศ
วัดพนัญเชิงวรวิหาร
เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยภายในวัดประดิษฐานองค์หลวงพ่อโตหรือเจ้าพ่อซำปอกง พระพุทธรูปทองคำสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเอาไว้ ใครที่อยากขอพรในเรื่องหน้าที่การงานให้มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองแนะนำให้เดินทางมากราบไหว้หลวงพ่อโต ส่วนคนโสดที่อยากขอพรเรื่องความรักสามารถแวะมากราบองค์เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก หรือที่ชาวจีนเรียกว่าจูแซเนี้ยได้เช่นกัน แต่หากสมดั่งปรารถนาแล้วอย่าลืมมาแก้บนกันนะ
วัดมเหยงคณ์
วัดมเหยงคณ์ เดิมเป็นพระอารามหลวงที่มีความสำคัญมากในสมัยอยุธยา แต่หลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อปี 2310 วัดมเหยงคณ์กลายเป็นวัดร้างที่สภาพโบราณสถานและโบราณวัตถุที่ยังเหลืออยู่ได้ปรักหักพังไปมาก แต่ก็พอมีเค้าเป็นหลักฐานบ่งบอกถึงศิลปะการก่อสร้างอันประณีตงดงามมโหฬารและระดับความสำคัญของพระอาราม สำหรับจุดเด่นของวัดมเหยงคณ์ คือ ผนังอุโบสถที่ก่ออิฐสีแดงตั้งตะหง่านท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนวัดแห่งนี้ไว้เป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2484 พร้อมบูรณะและจัดเนื้อที่นอกเขตโบราณสถานเป็นสำนักปฏิบัติกรรมฐาน
วัดตะโก
หากเอ่ยถึงการไหว้พระ 9 วัดอยุธยา ย่อมมีชื่อวัดตะโกติดอยู่ในลิสต์แน่นอน ด้วยวัดแห่งนี้เป็นสถานที่จำพรรษาของ หลวงพ่อรวย เกจิอาจารย์ชื่อดังที่สายบุญหลาย ๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากมาไหว้พระขอพรแล้ว ภายในวัดมีมุมสวย ๆ ให้แวะถ่ายรูปเพียบ ทั้งศาลากลางน้ำที่สามารถแวะมาให้อาหารปลาและถ่ายรูปสวย ๆ ได้ หรือมุมไฮไลท์อย่าง พระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก ที่มีสถาปัตยกรรมไทยสุดงดงาม ภายในบรรจุสังขารหลวงพ่อรวยพร้อมเปิดให้เข้าไปกราบไหว้อีกด้วย
วิหารพระมงคลบพิตร
สำหรับ วิหารพระมงคลบพิตร วัดเก่าแก่ที่ถูกสันนิษฐานว่าสร้างในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทั้งยังเป็นหนึ่งในวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ขอพรอย่างคับคั่ง ภายในพระวิหารเป็นที่ประดิษฐาน พระมงคลบพิตร พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ศิลปะแบบสมัยอยุธยาตอนต้น มีความเชื่อกันว่า หากได้มากราบไหว้และขอพรกับพระมงคลบพิตรช่วยส่งเสริมบารมีและสิริมงคลให้กับทุกด้านของชีวิต
วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
วัดกษัตราธิราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงสมัยกรุงศรีอยุธยาอีกแห่งที่ควรแวะมาไหว้พระขอพร โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งนอกเกาะเมืองทางด้านทิศตะวันตก ช่วยให้คุณสามารถชมวิวของพระเจดีย์ศรีสุริโยทัยที่ตั้งอยู่ตรงฝั่งเกาะเมืองได้อย่างชัดเจน ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน พระพุทธกษัตราธิราช พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีการลงรักปิดทองอย่างงดงาม และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดกษัตราธิราชวรวิหารแห่งนี้
วัดมหาธาตุ
วัดมหาธาตุ เป็น 1 ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี 2534 ถือเป็นวัดที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็น Unseen ด้วยภายในพื้นที่วัดแห่งนี้มีเศียรพระพุทธรูปในรากต้นโพธิ์ ซึ่งมีผู้สันนิษฐานว่าเศียรพระคงหล่นลงมาบริเวณโคนต้นโพธิ์ที่อยู่ข้างวิหาร พอเวลาผ่านไปรากโพธิ์ก็ค่อย ๆ งอกออกมาห่อหุ้มเศียรพระไว้แน่น จนคล้ายกับว่ามีเศียรพระผุดออกมาจากต้นโพธิ์นั่นเอง ทำให้นี่คือมุมไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องแวะมาถ่ายรูป ส่วนอีกจุดที่ห้ามพลาด ก็คือมุมเจดีย์แปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์ 4 ชั้น 8 เหลี่ยม ผนังประดับด้วยปูนปั้นรูปเทวดา ชั้นบนสุดเป็นปรางค์ขนาดเล็ก ถือเป็นเจดีย์แปดเหลี่ยมที่พบเพียงองค์เดียวในอยุธยาคาดว่าวัดพระงามถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ก่อนถูกทิ้งร้างไปเมื่อครั้งเสียกรุงในปี 2310 ภายในวัดมีซุ้มประตูโบราณมีต้นโพธิ์อายุกว่า 100 ปี ทำให้ซุ้มประตูแห่งนี้ถูกขนานนามว่า ประตูแห่งกาลเวลา เพราะความสวยงามเมื่อแสงพระอาทิตย์ตกที่สาดส่องเข้ามายังซุ้มประตูงดงามเสมือนกำลังก้าวผ่านไปยังอดีตเหมือนในละครทวิภพทีเดียว นอกจากนี้ภายในวัดประดิษฐานองค์พระเจดีย์แปดเหลี่ยม ทั้งยังมีกำแพงแก้วและคูน้ำล้อมรอบให้เดินชมความงามของวัดแห่งนี้ด้วย